อาจจะสงสัย แล้วก็สนเท่ห์ใจไม่น้อยกับชื่อที่พูดว่า “ไม่รุ่งเรือง เพราะเหตุว่ามีคนรัก?” เนื้อหานี้ มิได้เอ๋ยถึงคนธรรมดาทั่วไปแล้วก็เป็นอีกเพียงแต่การตั้งข้อคิดเห็นหนึ่ง สะท้อนจากประเด็นหนึ่งของชีวิตคนบางบุคคลแค่นั้น ซึ่งบางทีอาจไม่ใช่คุณ แม้กระนั้นมั่นใจว่ารอบข้างคุณอาจจะมี..
ถ้าหากคุณอยู่ในวัยที่ประสบพบเห็นอะไรมามากพอ หรือกลางคนขึ้นไป บางทีอาจคิดตามได้ง่ายดายยิ่งกว่า หรือแม้กระทั้งจะอายุไม่มากมาย (เสมือนผม) แต่ว่าช่างสังเกตศึกษาสิ่งรอบข้าง ก็บางทีก็อาจจะพอเพียงเห็นภาพได้เช่นเดียวกัน ที่มิได้กล่าวว่าพวกเราจะวินิจฉัยคนไหนกันแน่ก็แค่สงสัยว่า เพราะเหตุไรกันนะ?…
วัยที่ “ความรัก” ทำให้มีปัญหาสูงที่สุด จะต้องเป็นวัยรุ่น วัยเอ๊าะๆ จริงไหมครับผม? เนื่องจากว่ามันเป็นตอนวัยที่อะไรยังไม่ลงตัว ประกอบกับเป็นวัยที่ “สมควร” จะมีคู่ แล้วก็มัก “อุตสาหะ” มีคู่ และก็ต้องหาคู่ โดยธรรมชาติ ก็เลยเป็นช่วงๆ “ทำความเข้าใจ” ทดลองถูกไม่ถูกกันอยู่ เป็นปกติที่ควรมีปัญหากันบ่อยครั้ง
เมื่อแก่ขึ้นมาโดยธรรมดาความรัก จะเกิดเรื่องเรียบง่ายเยอะขึ้นเรื่อยๆ ด้วยประสบการณ์ วัยวุฒิ ภาวะอารมณ์ต่างๆที่บางทีอาจบอกโดยรวมได้ว่า “เป็นผู้ใหญ่แล้ว” หากระบุหน่อยก็คงจะอายุเกิน 30 ขึ้นไป
ผมมีปริศนาให้ท่านทดลอง คิด ตอบในใจ ว่า ผู้ที่มีคนรักช่วงอายุ 20-30 กับผู้ที่มีคู่รักตอนอายุ 30-40 แบบไหนคงจะได้โอกาส “เลิกรา” ง่ายดายกว่ากัน? (ได้คำตอบไหมครับผม)
ซึ่งแน่ๆว่าจังหวะเลิกรามีกันทั้งปวงไม่ว่าอายุเท่าไร แต่ว่าแม้เปรียบมอง อายุน้อยกว่า ก็คงจะได้โอกาสเลิกรากันง่ายยิ่งกว่าตามเหตุผลข้างต้น
การมีคู่รักจะต้องเป็นเรื่องที่ดี หรือเปล่าดี?
จากปัญหานั้น ถ้าชี้แจงเป็นคำบอกเล่าคงจะได้ประมาณว่า เด็กคบกันย่อมเลิกร้างง่ายดายกว่าคนแก่คบกัน แต่ว่า ถ้าเกิดเข้าวัยผู้ใหญ่ กลางคนแล้ว ยังเลิกราบ่อยมากราวกับวัยรุ่น หรือเลิกราด้วยต้นเหตุแบบเด็กๆอยู่ล่ะ? แบบนี้เห็นว่ายังไง?
ปัญหาชีวิตการครองเรือน คือเรื่องของคนสองคน เขาจะเลิกทำไม คนไหนกันแน่ไม่ถูก/ถูก ให้สรุปแทนกันย่อมมิได้ เพียงแค่ผลพวงที่มากกว่านั้นสำหรับหลายท่านเป็น เมื่อชีวิตการครองเรือนมีปัญหา ย่อมมีผลต่อชีวิตด้านอื่นด้วย… ลูก, ครอบครัว, หน้าที่การงาน, การดำรงชีวิต, จุดมุ่งหมายชีวิต…
วัยรุ่น หรือวัยรุ่น บางทีอาจเป็นวัยเริ่มลองถูกลองผิดตามที่กล่าวไป ไม่ใช่แค่เรื่องความรัก แม้กระนั้นรวมทั้งหัวข้อการงาน รวมทั้งอนาคต การยังไม่พบสิ่งที่ใช่ย่อมปกติ แล้วก็เขายังมีเวลาเลือก แต่ว่าถ้าเกิดไปสู่วัยที่ควรสร้างเนื้อสร้างตัว หรือเริ่มสร้างฐานรากมั่นคงแล้ว ยกตัวอย่างเช่นวัย 30+ แล้วยังควรจะมีปัญหาชีวิตแต่งงานซ้ำซากจำเจ แบบงี้ การมีคู่รักเกิดเรื่องที่ดี หรือเปล่าดี?
ชีวิตไม่ค่อยจะดียิ่งขึ้นสักด้าน แต่ว่าขยันมีคนรักใหม่
นี้จะต้องทำความเข้าใจ ผมมิได้กำลังสรุปว่า 30+ หรือ 40+ ห้ามมีปัญหา ห้ามเลิกรา หรือมีคู่รักใหม่ (ส่วนตัวผมก็จำต้องเริ่มต้นใหม่เมื่อ 30+) แม้กระนั้นในที่นี้เอ๋ยถึงปัญหา เรื้อรัง ซ้ำๆซากๆ ไม่ยินยอมจบ หมดปัญหามิได้ก็ไม่ยินยอมเลิก กว่าจะเลิกก็ลากยาว เลิกและมีใหม่ ใหม่ๆก็ย่อมดี แต่ว่าไม่นานก็เหมือนเดิม ท้ายที่สุดเลิกอีก ชีวิตก็จำเป็นต้องเริ่มต้นใหม่ ไม่มากมายก็น้อย และแปลกที่เขาจะแสดงทีท่าว่า “ได้แฟนไม่ดี” หรือ “มีคนรักกี่คนก็ไม่ดี” แม้กระนั้นก็ยังคงมุ่งหน้า “จะมีคนรักใหม่…”
ถ้าเกิดกล่าวสั้นๆเป็น “ชีวิตไม่ค่อยจะดียิ่งขึ้นสักด้าน แม้กระนั้นขยันมีคู่รักใหม่ ให้คือปัญหาตลอดระยะเวลา”
ไม่ใช่ทุกคนเป็นแบบนี้ แต่ว่าสำหรับผู้ที่วนเวียนอย่างนี้ แม้ถามคำถามว่าเป็นทำไม? ว่ากันลงลึกก็คือ บางทีอาจเพราะเหตุว่าเงื่อนภายใต้จิตใจบางประการ ที่มันไม่บางทีอาจรู้เรื่องตนเองได้ง่ายหรือในทันที แต่ว่าถ้าเกิดตอบแบบนี้ไป ก็ยากจะเข้าหัวใจ ที่แท้ทางที่ง่ายยิ่งกว่าหมายถึงทวนตนเองว่า “พวกเรามองหา หรือกำลังดิ้นรนกับอะไร?”
พวกเราล้วนมักต้องการมีคนรักมาเป็น “คู่แต่งงาน” ที่ให้ชีวิตมีอีกคนมาเติมเต็ม, ช่วยเหลือ, จุนเจือ พากันรุ่งเรือง ช่วยเหลือกันในหลายๆด้าน เนื่องจากคงจะไม่มีผู้ใดต้องการมีคนรักมาเป็นตัวถ่วง มาทำให้สงสัย มาทำให้หนักใจ มาให้จะต้องขจัดปัญหา หรือบางคราวพวกเราอยากได้มีคู่รักมาเพื่อทดแทนอะไร? การมีคู่รักเพื่ออวด เพื่อเป็นเครื่องเพชรพลอย เกี่ยวแขน ไปไหนมาไหนร่วมกัน ถ้าหากเหตุผลโดยประมาณนี้มันก็มองสำหรับเด็กๆเสมือนคนไม่เคยมีคนรักแล้วพึ่งต้องการมี ถ้าหากไม่เคยมีจริงๆไม่เสียหายก็ทดลองมีไป แต่ว่าจำนวนมากในกรณีนี้ล้วนเคยมีมาแล้ว..
…เพื่อสุขใจ หรือสุขกาย แล้วถ้าหากไม่ได้อะไรเลย?..
บางบุคคลบางทีอาจกล่าวว่าเป็นความสุขทางจิตใจ บางบุคคลก็ความอยากได้ทางร่างกาย (ที่ไม่มีผู้ใดบอกตนเองตรงๆ) ก็ธรรมชาติหนึ่งของคนเราและก็มันไม่ผิด แม้กระนั้นถ้ามีมาแล้วมันมิได้สุขอย่างนั้นจริง หัวใจก็ไม่สุข กายก็ไม่สุขจริง ได้เพียงแค่ชั่วครั้งชั่วคราว หรือได้สุขทางกามารมณ์ แม้กระนั้นทุกข์กายทุกข์ยากลำบากในชีวิตเป็นอยู่ อย่างนี้ก็มองไม่น่าจะคุ้ม ยิ่งได้ตอบสนองเท่านั้นเองแล้วหัวใจทุกข์ ยิ่งไม่น่าจะเรียกสุขไปกันใหญ่ จะมุมไหนก็ตาม คงจะจำเป็นต้องถามตนเองตั้งใจจริงกันมอง
ไม่มีผู้ใดเก่งทั้งหมดทุกอย่าง หรือได้ทุกๆอย่างในชีวิต
ย้ำอีกรอบว่าหัวข้อนี้ไม่ใช่สำหรับทุกคน สำหรับเพียงแค่บางบุคคล ที่ควรสงสัยตนเองสักครั้งว่า “มีคนรักไปเพราะเหตุไร?” พวกเราบางทีอาจไม่เก่งด้านการดูคนให้ออกก็ได้ ไม่เก่งสำหรับในการปรับนิสัยหาผู้ใดก็ได้ด้วยเหมือนกัน ไม่มีผู้ใดเก่งทุกเรื่อง และไม่มีผู้ใดกันได้ทุกสิ่งในชีวิต…
ที่สำคัญอย่างหนึ่ง บางเวลาปัญหาบางทีอาจไม่ใช่จากผู้ที่มาเป็นแฟน แต่ว่าเป็นตัวเองที่ไม่เคยพึงพอใจ ไม่รู้เพียงพอ ไม่เคยรู้เรื่องความอยากโดยความเป็นจริง หรือมัวแต่ใฝ่หาความสมบูรณ์แบบ ก็เลยเสียเวล่ำเวลา เสียทั้งยังอนาคตเนื่องจากว่าคิดแต่ “ต้องการมีคนรักที่ดี” แม้กระนั้นไม่เลิกรา ในเมื่อที่ได้มาพบแต่ว่าไม่ดี! และก็จำพวกที่แม้กระทั่งดารานำชายนางเอกที่ใด ก็ไม่ดีพอเพียง แบบนี้คำตอบไม่ได้มีความแตกต่างกัน..
มีคนมากที่ดำรงชีวิตลำพังไปจนกระทั่งแก่ตัว ก็ราวทุกคนไม่ใช่ว่าจะมีรถยนต์ ขับขี่รถเป็น จนถึงว่ายเป็นกันทุกคน มีคนมากที่มิได้มีสิ่งพวกนี้ และไม่ใช่ตัวชี้วัดว่าชีวิตเขาดี สุขสบาย การบรรลุเป้าหมาย แถมยังมีคนไม่มีคนรักมาก ที่ชีวิตรุ่งโรจน์ ได้ดำเนินชีวิตเป็นสุขกับตนเองในหลายๆด้าน โดยไม่ต้องพึ่งแฟน หรือถึงเวลานั้น ตัวเลือกมาเองเยอะมากก็มี…
ผู้คนจำนวนมากอยู่ในสภาวะไม่มีคู่ครองจนกระทั่งกำลังจะไม่มีคู่ แต่ว่ามีลูกที่ควรจะเอาใจใส่ มีบทบาทงานการที่ยังไม่มั่นคง มีภาระหน้าที่ที่จำเป็นต้องรับผิดชอบดูแล ต่างๆกันไป ยังมีอีกหลายด้านของชีวิตที่ต่างก็สำคัญต่อเขา โดยยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมันไม่เจริญรุ่งเรืองปรับปรุงมานับเป็นเวลาหลายปี เพราะเหตุใดไม่พักเรื่องแฟนแล้วกลับไปพากเพียรดูแลสิ่งที่มีมุ่งมั่น?
หรือเขาคิดหวังเอาว่า จะได้แฟนเป็นเทพธิดา เทพดา บันดลให้ทุกสิ่งแปรไปดียิ่งขึ้นได้ โดยที่ตนเองไม่ต้องทำอะไร มันก็ไม่น่าจะเป็นได้ มุมแบบนี้เป็นเหตุผลว่าเพราะอะไรต้องการแต่ว่า มีคนรัก ก็เลยไม่รุ่งโรจน์
หัวข้อนี้ผมมิได้กล่าวว่ากำเนิดกับทุกคน และก็จำเป็นต้องคิดยังไง ทำยังไง ไม่ยโสโอหังไปสรุปว่าผู้ใดกันไม่ควรมีคู่รัก เพียงแค่บางครั้งบางคราวพวกเราคงจะทวนใน “ผล” อย่างหนึ่งว่า มันคุ้มยืดเวลาของชีวิตพวกเราไหม ขั้นต่ำ “พักก่อน” ดีไหม มุ่งหน้าหาวัตถุประสงค์อื่นให้ชีวิตครู่หนึ่งมอง เพราะว่าจะว่าไปอายุเยอะแค่ไหนก็ยังมีคนรักได้ ถ้าเกิดต้องการจะมี แม้กระนั้นถ้าหากเอาแต่ใจจำเป็นมาก ชีวิตก็ไม่ไปไหนด้วยเหตุว่าวนเวียนอยู่ในเรื่องเดียวเดิมๆเยอะที่สุด